Aung (Nine Nine) และ May (Wutt Hmone Shwe Yi) เป็นคู่สามีภรรยาที่มีลูกสาว Siri (Pyae Pyae) ที่ป่วยเป็นออทิสติก จึงตัดสินใจย้ายออกจากเมืองเพื่อหาสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าในการเลี้ยงดูเธอ โดยซื้อบ้านเก่าหลังใหญ่ในที่ห่างไกล เมื่อย้ายเข้ามา Siri เปลี่ยนไปอย่างมาก เธอไม่ได้นอนกลางคืนอีกต่อไปและเริ่มใช้ชีวิตในช่วงกลางคืน พร้อมกับมีอารมณ์ดีและน่ารักมากขึ้น จนเกิดความสงสัยว่าตอนนี้เธออาจจะไม่ใช่ตัวเองอีกต่อไปแล้ว
เมื่อพูดถึงภาพยนตร์ไทยที่เข้มข้นและมีสาระสำคัญ ในปี 2019 ได้มีหนังเรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “มาร-ดา (The Only Mom)” ได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอนันต์ หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของความรักและครอบครัว แต่ยังสำรวจปัญหาที่ซับซ้อนเกี่ยวกับสุขภาพจิตและการเลี้ยงดูเด็กที่มีความต้องการพิเศษ โดยเฉพาะเด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก
ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของสามีภรรยาที่มีลูกสาวน่ารักชื่อ Siri (แสดงโดย Pyae Pyae) ที่ป่วยเป็นออทิสติก โดยพวกเขาจำเป็นต้องย้ายออกจากเมืองเพื่อหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงลูกสาวของตน ตั้งแต่นั้นมา สิ่งต่างๆ ในชีวิตของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมื่อ Siri แสดงอาการที่แตกต่างไปจากที่เคยเป็น
รายละเอียดของภาพยนตร์
- ชื่อเรื่อง: มาร-ดา (The Only Mom)
- ปีที่ออกฉาย: 2019
- ผู้กำกับ: Jonny Bairstow
- นักแสดงนำ: Aung (Nine Nine), May (Wutt Hmone Shwe Yi), Siri (Pyae Pyae)
- เรตติ้ง: 7.5/10
บทบาทของตัวละคร
ในภาพยนตร์ Aung (Nine Nine) และ May (Wutt Hmone Shwe Yi) รับบทเป็นคู่สามีภรรยาที่ทำทุกอย่างเพื่อรักษาความสุขและความเป็นไปได้ของลูกสาวของพวกเขา จากเบื้องต้นมีความลำบากในการปรับตัวเมื่อย้ายจากเมืองใหญ่สู่บ้านที่ห่างไกล แต่ทั้งสองก็เป็นแรงขับเคลื่อนให้ Siri ต้องมีความสุขอย่างที่เธอสมควรได้รับ
สาระสำคัญของภาพยนตร์
ความสำคัญของภาพยนตร์นี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่เข้าถึงอารมณ์และแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการเลี้ยงดูเด็กที่มีความต้องการพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของครอบครัวไทยที่ยังมีการตระหนักถึงความหลากหลายทางสุขภาพจิตอย่างจำกัด
การที่ Siri เริ่มแสดงอาการต่างๆ เช่น การไม่หลับในเวลากลางคืน และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือไม่ดี เป็นสิ่งที่สร้างแรงดึงดูดในเรื่องราวนี้ให้ผู้ชมรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางร่วมกับตัวละคร
การแสดงและความเข้มข้นของเรื่องราว
การแสดงของนักแสดงทุกคนในมาร-ดา ได้สร้างความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งระหว่างพวกเขากับผู้ชม โดยเฉพาะการแสดงของ Pyae Pyae ที่ทำให้เรารู้สึกถึงความทุกข์และความสุขของเด็กที่มีอาการออทิสติก ในขณะเดียวกัน May (Wutt Hmone Shwe Yi) ก็แสดงให้เห็นถึงความรักอันไม่มีขีดจำกัดของแม่ที่เผชิญกับความท้าทายต่างๆ
มุมมองด้านจิตวิทยาและการสนับสนุนของครอบครัว
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ให้ภาพลักษณ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ที่ผู้ปกครองต้องเผชิญเมื่อเลี้ยงดูเด็กที่เป็นออทิสติก อาการของ Siri ที่เคยทำให้ครอบครัวรู้สึกสิ้นหวัง กลับกลายเป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงความคิดและวิธีการเลี้ยงดู เพื่อให้เธอมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
สรุปความคิดและการตอบรับจากผู้ชม
ด้วยความเข้มข้นและเรื่องราวที่สะท้อนสังคม “มาร-ดา (The Only Mom)” ทำให้ผู้ชมหลายคนมีอารมณ์ร่วมและเข้าใจปัญหาที่หลายครอบครัวต้องเผชิญ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มีการตอบรับเป็นอย่างดีจากเหล่าผู้ชมที่ชื่นชมการนำเสนอเรื่องราวที่เป็นจริง และการมอบความรู้สึกที่แท้จริงเกี่ยวกับความรักของผู้ปกครอง
อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับการสนับสนุนและการช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการพิเศษในสังคมไทย สุดท้ายนี้ “มาร-ดา” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ที่สร้างความบันเทิง แต่เป็นการกระตุ้นให้สังคมเห็นคุณค่าของความเข้าใจและการสนับสนุนในครอบครัวที่มีผู้ที่ถูกเรียกว่า “แตกต่าง”
สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แนะนำให้ลองหาความรู้สึกและประสบการณ์ที่แตกต่างการจากการรับชม ทั้งนี้มาร-ดา เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่น่าจดจำและมีคุณค่าในวงการหนังไทยในปี 2019