หลังจากความรักอันโรแมนติกในมอนติคาร์โล หญิงสาวผู้ไร้เดียงสาได้เข้าสู่ชีวิตใหม่กับแม็กซิม เดอ วินเทอร์ พ่อม่ายผู้เข้มแข็ง เมื่อมาถึงคฤหาสน์ใหญ่ เธอกลับพบว่าตนเองต้องเผชิญหน้ากับเงาที่โดดเด่นของรีเบคกา ภรรยาคนแรก ผู้ยังคงมีอิทธิพลในบ้าน ขณะที่มิสซิส เดอ วินเทอร์คนใหม่พยายามปรับตัวเข้ากับบทบาทของตน ความทรงจำและเงาแห่งรีเบคก้ายังคงหลอกหลอนไม่หยุด ต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่ยังคงตามหลอนและความท้าทายในการสร้างตัวตนใหม่ของเธอเอง
หลังจากความรักอันโรแมนติกในมอนติคาร์โล หญิงสาวผู้ไร้เดียงสาพบว่าตัวเองถูกพัดพาไป โดย แม็กซิม เดอ วินเทอร์ (อาร์มี แฮมเมอร์) พ่อม่ายผู้ห้าวหาญ และด้วยความกระตือรือร้นที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะเมียน้อย เธอก็ได้มาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่เพียงเพื่อจะได้รับการต้อนรับจากการปรากฏตัวอันสง่างามของ รีเบคกา ภรรยาคนแรกของแม็กซิม ซึ่งมีเงาทอดยาวไปทั่วบ้าน ในขณะที่ มิสซิส เดอ วินเทอร์ (ลิลี เจมส์) คนใหม่พยายามจัดการกับความซับซ้อนของบทบาทใหม่ของตนเอง เธอก็พบว่าตัวเองถูกหลอกหลอนมากขึ้นเรื่อยๆด้วยความทรงจำของรีเบคกา
ภาพยนตร์ “Rebecca” (2020) เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของหญิงสาวที่ใช้ชีวิตในความสับสนและคุกคามทั้งจากอดีตและความคาดหวังในอนาคต ภาพยนตร์นี้สร้างจากนวนิยายอมตะของดาฟเน่ ดูมอเรียเอ ซึ่งได้รับการนำเสนอในรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจและมีการถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซึ้ง
ข้อมูลพื้นฐานของภาพยนตร์
- ชื่อเรื่อง: Rebecca
- ปีที่ออกฉาย: 2020
- ผู้กำกับ: เบนน์ วิทลีย์ (Ben Wheatley)
- นักแสดงนำ:
- ลิลี เจมส์ (Lily James) รับบท มิสซิส เดอ วินเทอร์
- อาร์มี แฮมเมอร์ (Armie Hammer) รับบท แม็กซิม เดอ วินเทอร์
- เคลลี่ แม็คโดนัลด์ (Keeley Hawes) รับบท มานดี้
- ซามูเอล เวลล์ (Sam Riley) รับบท แจ็ค ฟาเบอร์
- คะแนนจาก IMDb: 6.3/10
เรื่องย่อ
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ชื่อ “ม็อคซี่” ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของรีเบคกา อดีตภรรยาของแม็กซิม เดอ วินเทอร์ มันเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความเศร้าโศกและความลึกลับ เมื่อสาวน้อย (ลิลี เจมส์) ได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นคู่ครอง หลายอย่างเริ่มเปิดเผย สัญญาณแห่งการไม่เป็นส่วนหนึ่งและการถูกหลอกหลอนด้วยตัวตนของผู้หญิงคนก่อนหน้าค่อยๆ เข้ามาครอบงำชีวิตเธอ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็พยายามต่อสู้กับอคติและความคาดหวังที่มีต่อผู้หญิงในสังคมยุคนั้น
การวิเคราะห์ตัวละคร
มิสซิส เดอ วินเทอร์
มิสซิส เดอ วินเทอร์ แสดงถึงการพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ เธอเริ่มต้นจากการเป็นหญิงสาวผู้ไร้เดียงสา แต่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในชีวิตคู่และการเลือกที่ทำให้ไม่สามารถหนีจากเงาของรีเบคกาได้ ในระหว่างบทบาทนี้ เธอแสดงถึงปัญหาของการอยู่ภายใต้เงาอดีต เธอพยายามสร้างสถานะและตัวตนในขณะที่ต้องเผชิญกับการจ้องมองของสังคมและการเปรียบเทียบที่ยากจะหลีกหนี
แม็กซิม เดอ วินเทอร์
ตัวละครแม็กซิมนับว่าเป็นอีกหนึ่งด้านที่สำคัญ เขาเองคือผู้หลุดพ้นจากอดีตที่มีการต่อสู้ทางจิตใจที่หลากหลาย มักจะมีความสับสนระหว่างความรักและความรับผิดชอบ ส่วนหนึ่งของเขายังถูกเผาให้ถูกระทมทุกข์ด้วยภาพลักษณ์ของรีเบคกา ถึงแม้เขาจะรักมิสซิส เดอ วินเทอร์ แต่เขาก็ดูเหมือนจะถูกผูกมัดในเรื่องของความภักดีต่อความทรงจำ
รีเบคกา
การปรากฏตัวของรีเบคกาในเรื่องนั้นเป็นตำนานที่ไม่ตาย ทุกการกระทำหรือการกล่าวถึงเธอ ทำให้แนวทางของเรื่องมีความกระตุ้นอารมณ์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น แสดงให้เห็นถึงความกล้าแกร่งและความรุนแรงของการอยู่ภายใต้การเรียกร้องของสังคมและความตายที่เกิดจากภาพลักษณ์ของผู้หญิงในอดีตอย่างเป็นกลุ่ม
ธีมหลักของภาพยนตร์
ธีมของ “Rebecca” สะท้อนถึงหลากหลายแง่มุมในสังคมซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่อดีต งานศิลปะนี้พูดถึงการสูญเสีย การหลอกหลอน และการต่อสู้เพื่อค้นหาตัวตน และความสัมพันธ์ที่มีความยุ่งเหยิงทางจิตใจ ชีวิตของมิสซิส เดอ วินเทอร์ แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการยึดถือและค้นหาความรัก และความหมายของการเป็นผู้หญิงในยุคที่เต็มไปด้วยความคาดหวังจากสังคม
การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์ “Rebecca” (2020) จะไม่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิจารณ์หลายแห่ง แต่ก็ยังมีผู้ชมบางกลุ่มที่เห็นว่าภาพยนตร์นี้มีคุณค่าในแง่ของการนำเสนอเรื่องราวและการสร้างบรรยากาศที่เข้มข้น แสดงให้เห็นว่ามันสามารถสร้างอารมณ์ที่หลากหลายจากการพัฒนาตัวละคร และการเล่าเรื่องในแบบที่ไม่สร้างความคาดหวังทั่วไปในภาพยนตร์โรแมนติก
สรุป
โดยรวมแล้ว “Rebecca” (2020) เป็นภาพยนตร์ที่สำรวจจิตใจของมนุษย์ในเหลี่ยมมุมที่แท้จริง ทั้งความดาร์กและความโรแมนติก ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความซับซ้อนไปพร้อมกัน ผู้ชมจะได้สัมผัสกับความสวยงามของการถ่ายทอดภาพและเรื่องราวที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำนาน
ทำไมคุณควรดู “Rebecca” (2020)
หากคุณเป็นแฟนของนวนิยายคลาสสิคหรือภาพยนตร์ที่มีความลึกซึ้งในด้านจิตวิทยาและอารมณ์ “Rebecca” (2020) ควรอยู่ในลิสต์ที่คุณต้องดู ไม่เพียงแค่เป็นเรื่องราวของความรัก แต่ยังสำรวจด้านมืดของความเป็นมนุษย์และความหมายของการสูญเสีย มันดูจะไม่เป็นแบบแผนเฉพาะภาพยนตร์โรแมนติก แต่มีคอนเซ็ปท์ที่ลึกซึ้งที่ทำให้เกิดการพิจารณาและตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในชีวิตจริง