“Cruella” เล่าเรื่องของเอสเตลล่า (เอ็มม่า สโตน) นักต้มตุ๋นในลอนดอนยุค 1970 ที่มุ่งหวังจะสร้างชื่อเสียงในวงการแฟชั่น โดยเฉพาะในช่วงการปฏิวัติแฟชั่นพังค์ร็อค เธอร่วมมือกับคู่หูโจรเพื่อหาเลี้ยงตัว วันหนึ่ง บารอนเนส วอน เฮลล์แมน (เอ็มมา ทอมป์สัน) นักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง สังเกตเห็นผลงานของเอสเตลล่า ความสัมพันธ์ของพวกเธอสานต่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของเอสเตลล่า ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่แตกต่างจากเดิมไปตลอดกาล.
เรื่องย่อหนัง “Cruella ครูเอลล่า” เมืองลอนดอนในปี 1970 ซึ่งอยู่ระหว่างช่วงการปฏิวัติแฟชั่นสไตล์พังค์ร็อค เอสเตลล่า (เอ็มม่า สโตน) นักต้มตุ๋นวัยสาวที่มีความฉลาดหลักแหลม และความคิดสร้างสรรค์อย่างน่ามหัศจรรย์ เธอได้มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการออกแบบ และเธอก็ได้ร่วมมือกับคู่หูจอมโจรที่ชื่นชอบในความบ้าระห่ำของเธอเพื่อหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ แต่แล้ววันหนึ่ง บารอนเนส วอน เฮลล์แมน (เอ็มมา ทอมป์สัน) ที่เป็นตำนานแห่งแฟชั่น ก็ได้สะดุดตาเข้ากับผลงานการออกแบบของเอสเตลล่า แต่ทว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้เอสเตลล่ากลับกลายไปเป็นคนละคน
ภาพรวมของ “Cruella”
Cruella เป็นภาพยนตร์ที่มีการออกแบบและทำให้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกแฟชั่น หากคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับตัวละคร “Cruella de Vil” จากการ์ตูนดิสนีย์ “101 Dalmatians” คุณอาจรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความชั่วร้าย แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะได้เห็นต้นกำเนิดและเหตุผลที่ทำให้เธอกลายเป็นอย่างที่เธอเป็น
ข้อมูลทั่วไป
- ชื่อเรื่อง: Cruella
- ปีที่ออกฉาย: 2021
- ผู้กำกับ: คริสโตเฟอร์ แอนเดอร์สัน
- นักแสดงนำ: เอ็มม่า สโตน, เอ็มมา ทอมป์สัน, โจลี่ ลอว์เรน, มาร์ค สตรอง และ พอล เวลย์
- ความยาว: 134 นาที
- ประเภท: ดราม่า, คอมเมดี้, แฟนตาซี
- เรตติ้ง: PG-13
การตั้งค่าที่น่าสนใจ
“Cruella” ตั้งอยู่ในลอนดอนซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในช่วงปี 1970 ลักษณะท่าทางและสไตล์ของตัวละครหลักจะสะท้อนให้เห็นถึงการปฏิวัติแฟชั่นที่เกิดขึ้นในเวลานั้น ตัวหนังช่วยนำเสนอความสนุกสนานของชนชั้นแรงงานและความหม่นหมองของสังคมในยุคเดียวกัน
พล็อตของหนัง
เอสเตลล่า เป็นเด็กสาวที่มีความฝันจะเป็นนักออกแบบแฟชั่น แต่ชีวิตของเธอเป็นไปด้วยความยากลำบากจนกระทั่งเธอได้พบกับความสำเร็จในโลกแฟชั่นเมื่อได้ทำงานร่วมกับบารอนเนส วอน เฮลล์แมน ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ทรงพลัง แต่ความสัมพันธ์ของพวกเธอกลับเต็มไปด้วยการแข่งขันและเรื่องราวที่ไม่คาดคิด
การพัฒนาของตัวละคร
ในนาทีนี้ผู้ชมจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันซับซ้อนของตัวละคร เอสเตลล่า ที่สุดท้ายได้เปลี่ยนเป็น Cruella de Vil ตัวละครที่ผู้ชมคุ้นเคย ควบคู่ไปกับการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่บังคับให้เธอต้องบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองและค้นพบอัตลักษณ์ของเธอ
การแสดงและเคมีระหว่างนักแสดง
การแสดงของ เอ็มม่า สโตน ในบท เอสเตลล่า ถือเป็นจุดเด่นที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม การแสดงที่เต็มไปด้วยพลังและความโมโหจากเธอทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจความซับซ้อนในตัวละครนี้ได้เป็นอย่างดี
เอ็มมา ทอมป์สัน ในบทบารอนเนส วอน เฮลล์แมน
เอ็มมา ทอมป์สัน ก็ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะการแสดงของเธอเต็มไปด้วยความเย้ายวนใจและความเป็นมิตรที่ส่งต่อมายังผู้ชม เธอสร้างความสัมพันธ์ที่มีน้ำหนักระหว่างตนเองและเอสเตลล่า ถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลายซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร
การออกแบบและโดยรวมทางศิลป์
สินทรัพย์ที่ชัดเจนที่สุดของ “Cruella” คือการออกแบบเครื่องแต่งกายที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์และความแฟนตาซี ซึ่งช่วยให้ผู้ชมเข้าใจและรู้สึกถึงวัฒนธรรมแฟชั่นในเวลานั้น ตัวเครื่องแต่งกายเป็นผลงานที่ควรสรรเสริญ เนื่องจากมีสีสันสวยงาม และเรียบง่ายแต่น่าทึ่ง
เสียงเพลงและบรรยากาศของหนัง
ภาพยนตร์ยังได้ใช้เพลงต่าง ๆ เข้าเสริมในฉากต่าง ๆ ซึ่งทำให้บรรยากาศของหนังเต็มไปด้วยแก่นสารและอารมณ์ เจาะลึกเข้าไปในประเด็นสังคมที่สำคัญในยุค 1970 เสียงเพลงช่วยส่งเสริมสร้างความเข้มข้นให้กับการเล่าเรื่อง
คุณค่าของภาพยนตร์
“Cruella” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ที่สนุกสนาน แต่ยังได้นำเสนอมุมมองใหม่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและความต้องการที่ชัดเจนของแก่นแท้ของตัวละคร การค้นพบตัวเองและการปรับตัวในโลกที่หลากหลายเป็นสิ่งที่หนังนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจน
บทสรุป
“Cruella” ได้ผสมผสานความบันเทิงเข้ากับการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบทางสังคมและแฟชั่นในยุค 1970 ได้อย่างลงตัว พร้อมการแสดงที่น่าทึ่งของนักแสดงนำ ช่วยให้หนังมีคุณภาพในการที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงทั้งอารมณ์และพลังของตัวละครได้อย่างดี นอกจากนี้ หนังยังเป็นภาพยนตร์ที่มีคุณค่าสำหรับคนที่สนใจในเรื่องราวของตัวละครที่เป็นที่รู้จักในวรรณกรรม คล้ายคลึงกับการพูดคุยเกี่ยวกับสังคม สิ่งที่สนุกสนานและมีเสน่ห์ของภาพยนตร์จะยังคงตราตรึงในใจผู้ชมไปอีกนาน.