ในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 3 “จอมมฤตยู” (Goldfinger) เจมส์ บอนด์ (ฌอน คอนเนอรี) ถูกมอบหมายให้สืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับออริค โกลด์ฟิงเกอร์ (เกิร์ต โฟรเบ) เจ้าพ่อค้าทองคำรายใหญ่ โดยเขาได้ค้นพบทองคำที่ปนเปื้อนสารอันตรายในฟอร์ตน็อกซ์ จึงต้องหยุดยั้งการแพร่กระจายของสารนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน พร้อมทั้งต้องสืบหาที่มาของสารปนเปื้อนเพื่อยับยั้งแผนการก่อการร้ายที่กำลังเกิดขึ้น.
ดูหนังฝรั่งออนไลน์ เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 3 จอมมฤตยู 007 James Bond 007 Goldfinger ในขณะที่เจ้าหน้าที่สายลับมือหนึ่งเจมส์บอนด์ (ฌอน คอนเนอรี) ต้องเข้ามาทำหน้าที่ดูแลคดีการสืบสวนสอบสวนที่มีความเกี่ยวข้องกับ ออริค โกลด์ฟิงเกอร์ (เกิร์ต โฟรเบ) เจ้าพ่อค้าทองคำรายใหญ่ ซึ่งเจมส์บอนด์ได้ทำการตรวจพบว่ามีทองคำในจำนวนมากมายที่ได้รับสารปนเปื้อนอยู่ในคลังเก็บทองคำที่ฟอร์ตน็อกซ์ จึงทำให้เขาต้องพยายามหยุดยั้งไม่ให้สารปนเปื้อนเหล่านี้ออกไปแพร่กระจาย และผลส่งเสียอย่างร้ายแรงต่อเหล่าประชาชน และไม่ว่าอย่างไรก็ตามเจมส์บอนด์ก็จะต้องสืบหาที่มาของสารปนเปื้อนนี้ เพื่อยับยั้งไม่ให้กลุ่มคนก่อการร้ายทำแผนการที่เกิดขึ้นนี้ได้สำเร็จ
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ James Bond 007 Goldfinger
- วันที่เข้าฉาย: 17 กันยายน 1964
- ผู้กำกับ: ควน แฮมเมอร์
- นักแสดงหลัก:
- ฌอน คอนเนอรี (James Bond)
- เกิร์ต โฟรเบ (Auric Goldfinger)
- ออรา เคอร์รี (Pussy Galore)
- เชลลี่ ไวท (Jill Masterson)
- เรตติ้ง: 7.7/10 (IMDb)
- ประเภท: แอ็คชั่น, ระทึกขวัญ
- ภาพยนตร์ชุด: เจมส์บอนด์ ภาค 3
เนื้อเรื่องหลักของ Goldfinger
Goldfinger นำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการผจญภัย โดยเกิดขึ้นเมื่อเจมส์ บอนด์ถูกส่งไปตรวจสอบออริค โกลด์ฟิงเกอร์ นักการค้าน้ำมันและทองคำ ผู้มีแผนการที่น่าสงสัย ภายใต้โต๊ะสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดูสะอาดตา แต่บอนด์สังเกตเห็นความลึกลับที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจของเขาเมื่อเขาตรวจพบการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับทองคำ
การสำรวจความธรรมดาและลึกลับ
ระหว่างการสืบสวน บอนด์ได้พบกับผู้หญิงที่มีเสน่ห์ชื่อว่า จิล มาสเตอร์สัน ที่ถูกไล่ล่าจากผู้ติดตามของโกลด์ฟิงเกอร์ และเมื่อเธอถูกฆ่าในการต่อสู้ที่ทารุณ ความเสี่ยงของเมื่อเกอร์ั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของบอนด์ไปตลอดกาล
แผนการของโกลด์ฟิงเกอร์
แผนการของโกลด์ฟิงเกอร์คือการทำลายทองคำในคลังที่ฟอร์ตน็อกซ์ โดยการใช้สารกัมมันตภาพรังสีเพื่อทำลายอำนาจทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขา ลูกน้อง และความฉลาดของเขา บอนด์จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งโกลด์ฟิงเกอร์ก่อนที่มันจะสายเกินไป
การเรียนรู้จาก Goldfinger
Goldfinger ไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นและความตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังมีความหมายในเชิงสังคม โดยสะท้อนให้เห็นการมีอำนาจและวิธีการที่เงินอาจส่งผลกระทบต่อคนในสังคม
สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมในยุคสมัยนั้น โดยมีฉากที่เป็นที่จดจำ เช่น ฉากที่เจมส์ บอนด์โกนผมให้กับโกลด์ฟิงเกอร์ ตลอดจนรถยนต์ที่เขาขับขี่และเครื่องมือที่ใช้ในการทำให้ภารกิจสำเร็จ อาทิเช่น รถออดี้ที่มีความสามารถพิเศษ
การสร้างและเทคนิคที่ใช้ใน Goldfinger
ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ใช้เทคนิคการสร้างที่พัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุดในยุคนั้น เช่น การใช้งาน CG (Computer Graphics) และการซ้อนภาพที่ช่วยให้สร้างเทคนิคการต่อสู้และการแสดงผลการระเบิดได้อย่างน่าตื่นเต้น
ผลกระทบและมรดกของ Goldfinger
Goldfinger มีผลกระทบต่อวรรณกรรมภาพยนตร์ที่สร้างตัวละครเจมส์ บอนด์ให้กลายเป็นไอคอนที่มีชื่อเสียง และมีการสร้างภาคต่ออีกมากมายในซีรีส์ ซึ่งทุกภาคจะมีการพัฒนาและการเพิ่มเทคนิคใหม่ๆ บวกกับการทำให้เข้าถึงประชาชนในรูปแบบที่หลากหลาย
การวิเคราะห์ที่แสดงผลในวงการภาพยนตร์
Goldfinger ทำให้เห็นถึงความนิยมของภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีเนื้อหาที่ซับซ้อนและตัวละครที่ลึกซึ้ง จึงเป็นที่น่าสนใจว่าในปัจจุบันผู้กำกับภาพยนตร์หลายคนได้เอาแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้ไปใช้ในผลงานของตนเองอย่างต่อเนื่อง
สรุปแล้ว Goldfinger เป็นหนึ่งในเพชรน้ำงามของจักรวาลเจมส์ บอนด์
ภาพยนตร์เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าได้สร้างมาตรฐานที่สูงในวงการภาพยนตร์แอ็คชั่น สิ่งที่อาจถูกมองข้ามไปในอดีตอาจกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคตที่สามารถดึงดูดผู้ชมจากทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า
ด้วยเรื่องราวที่น่าติดตาม ตัวละครที่น่าจดจำ และเรื่องราวที่สื่อถึงกระแสทางสังคม Goldfinger ยังคงมีความสำคัญในวงการภาพยนตร์ และเป็นหนึ่งในแบบอย่างสำหรับการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่ดีต่อไป