ในห้องโถงหรูของราชสำนักควีนแอนน์ (โอลิเวีย โคลแมน) ความอาฆาตพยาบาทและการเมืองต้องการกลยุทธ์ เมื่อเลดี้ซาราห์ (เรเชล ไวสซ์) เป็นคนสนิทของราชินี ทำให้เธอมีอิทธิพลสูงในการตัดสินใจเพื่ออนาคตชาติ ทว่าการเข้ามาของอาบิเกล (เอมมา สโตน) ผู้มาใหม่สุดเจ้าเล่ห์ กลับสร้างความตึงเครียดในอำนาจและบรรยากาศที่ละเอียดอ่อน ซาราห์ต้องจัดการกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้ เพื่อรักษาความสัมพันธ์และอำนาจที่เธอมีอยู่.
ในห้องโถงที่ตกแต่งอย่างหรูหราของราชสำนักของควีนแอนน์ (โอลิเวีย โคลแมน) กลอุบายทางการเมืองและความอาฆาตพยาบาทส่วนบุคคล กลายเป็นประเด็นสำคัญเมื่อ เลดี้ ซาราห์ (เรเชล ไวสซ์) คนสนิทที่สุดของราชินีโดยอิทธิพลของซาราห์ได้แผ่ขยายไปไกลกว่าแค่มิตรภาพ เพราะในขณะที่เธอจัดการกับการตัดสินใจของราชินีอย่างเชี่ยวชาญ เพื่อกำหนดชะตากรรมของชาติ อาบิเกล (เอมมา สโตน) ผู้มาใหม่สุดเจ้าเล่ห์ซึ่งมีความทะเยอทะยานของเขา ขัดขวางความสมดุลอันละเอียดอ่อนของอำนาจ
“เดอะ เฟฟเวอริท อีเสน่ห์ร้าย” หรือ “The Favourite” เป็นภาพยนตร์ที่จัดทำโดยผู้กำกับ ยอร์กอส ลันธีมัส (Yorgos Lanthimos) ออกฉายในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2018 ในสหรัฐอเมริกา และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์ ด้วยการเล่าเรื่องราวที่ชวนให้คิดและความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลัก ภาพยนตร์นี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายรายการ รวมถึงรางวัลออสการ์
ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์
- ชื่อภาษาไทย: เดอะ เฟฟเวอริท อีเสน่ห์ร้าย
- ชื่อภาษาอังกฤษ: The Favourite
- ผู้กำกับ: ยอร์กอส ลันธีมัส
- นักแสดงหลัก:
- โอลิเวีย โคลแมน (รับบท ควีนแอนน์)
- เรเชล ไวสซ์ (รับบท เลดี้ ซาราห์)
- เอมมา สโตน (รับบท อาบิเกล)
- วันที่เข้าฉายในสหรัฐ: 23 พฤศจิกายน 2018
- คะแนน IMDb: 7.8/10
- ระยะเวลา: 119 นาที
- แนว: ดราม่า, คอเมดี้, ประวัติศาสตร์
แนวคิดและธีม
“เดอะ เฟฟเวอริท อีเสน่ห์ร้าย” ไม่ได้เป็นแค่ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ทั่วไป แต่ยังสะท้อนถึงประเด็นทางสังคมและการเมืองที่ซับซ้อน รวมถึงการต่อสู้เพื่ออำนาจและสถานะ ความสัมพันธ์ที่แปรปรวนระหว่างตัวละครหลักลงลึกไปถึงประเด็นของความรักและความหึงหวง ซึ่งสร้างความบีบคั้นให้กับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวละครและการแสดง
การแสดงของนักแสดงนำทั้งสามคนเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของภาพยนตร์ โอลิเวีย โคลแมนได้แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดจากการเป็นราชินีที่สูญเสียอำนาจ และแสดงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ในขณะที่เรเชล ไวสซ์ต้องการรักษาเส้นทางการเมืองของตัวเองพร้อมๆ กับความรักที่เธอมีต่อราชินี ส่วนเอมมา สโตนแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักบุญในขณะเดียวกันก็ถูกตัดสินว่าเป็นผู้มาร้าย
การผลิตและการถ่ายทำ
“เดอะ เฟฟเวอริท อีเสน่ห์ร้าย” ได้รับการถ่ายทำแบบไม่ใช้ CGI แต่อิงจากสถานที่จริงและเครื่องแต่งกายที่มีรายละเอียด การออกแบบการผลิตและการเลือกใช้สีมีส่วนสำคัญต่อบรรยากาศของภาพยนตร์ ตั้งแต่ความหรูหราของราชสำนักไปจนถึงความมืดมนของความรุนแรงภายในพระราชวัง
ความสำเร็จและรางวัล
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมเท่านั้น แต่ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 10 สาขาและคว้ารางวัลออสการ์สำหรับนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (โอลิเวีย โคลแมน) นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล BAFTA และ Golden Globe ในหลายสาขา พร้อมกวาดรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
สถานที่ถ่ายทำ
“เดอะ เฟฟเวอริท อีเสน่ห์ร้าย” ถูกถ่ายทำในหลายสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในอังกฤษ รวมถึง Hatfield House ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่เข้ากับยุคสมัยที่ภาพยนตร์ต้องการถ่ายทอด สถานที่เหล่านี้ช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้กับเรื่องราวที่มีความซับซ้อนของการต่อสู้ทางอำนาจและแรงปรารถนา
การวิจารณ์
การวิจารณ์ต่อภาพยนตร์ “เดอะ เฟฟเวอริท อีเสน่ห์ร้าย” ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะการแสดงของนักแสดงและการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนใคร นักวิจารณ์ยังชื่นชมถึงเสื้อผ้าและการตกแต่งที่สะท้อนตัวตนของตัวละครและการเล่าเรื่องในเชิงวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์
สรุป
“เดอะ เฟฟเวอริท อีเสน่ห์ร้าย” เป็นผลงานที่โดดเด่นและมีความลึกซึ้งซึ่งไม่เพียงแต่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ แต่ยังสื่อสารถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในอำนาจ ภาพยนตร์นี้เป็นการผสมผสานระหว่างคอเมดี้และดราม่าที่จะทำให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับอำนาจและความรัก
ภาพยนตร์นี้เป็นตัวอย่างที่ดีว่าศิลปะสามารถสร้างพื้นที่สำหรับการสะท้อนความเป็นจริงและการค้นพบตัวตนในโลกที่ซ่อนอยู่หลังการปกครองที่โอ่อ่า ตั้งแต่การแสดงที่โดดเด่นจนถึงการกำกับที่สร้างสรรค์ “เดอะ เฟฟเวอริท อีเสน่ห์ร้าย” จะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมไปอีกนาน.