ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กริกอรี่ รัสปูติน (คาเรล โรเดน) จอมวายร้ายที่ต้องการอำนาจ ได้จับกุมเฮลล์บอย (รอน เพิร์ลแมน) เพื่อใช้เขาในการทำลายโลก แต่ระหว่างการกักขัง เฮลล์บอยได้รับการช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ เทรเวอร์ บรูม บรูทเทนโฮล์ม (จอห์น เฮิร์ท) ผู้ซึ่งเลี้ยงดูเขาเสมือนลูก จนเขาเติบโตและทำงานเป็นฮีโร่ปกป้องโลกจากภัยอันตราย การช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ทำให้เฮลล์บอยหันมาทำความดีแทนการทำลาย.
ในยุคสมัยที่กำลังเกิดเหตุการณ์ต่อสู้จากสงครามโลกครั้งที่สอง ในยุคนั้นมีจอมวายร้ายอย่าง กริกอรี่ รัสปูติน (คาเรล โรเดน) ที่ต้องการยึดครองอำนาจ และได้ทำการจับกุมตัวของ เฮลล์บอย (รอน เพิร์ลแมน) ไปเพื่อที่จะใช้ประโยชน์อะไรบางอย่างจากตัวเฮลล์บอย ซึ่งในตอนนี้จอมวายร้ายได้พาตัวของเฮลล์บอยมาที่โลกมนุษย์ เพราะจอมวายร้ายต้องการที่จะใช้ให้เฮลล์บอย มาสร้างความเสียหายให้กับผู้คนและโลกใบนี้ แต่ในระหว่างที่เฮลล์บอยกำลังถูกจอมวายร้ายกักขังและทำร้ายเขา ในวันหนึ่งก็ได้มีศาสตราจารย์ใจดีอย่าง เทรเวอร์ บรูม บรูทเทนโฮล์ม (จอห์น เฮิร์ท) ที่ได้ช่วยเหลือชีวิตของเฮลล์บอยเอาไว้และเลี้ยงเขามาจนเขาเติบโต หลังจากนั้นเป็นต้นมาศาสตราจารย์ก็ดูแลเลี้ยงดูเขาเสมือนลูกคนหนึ่ง จนในตอนนี้เขาก็ได้ทำงานให้กับศาสตราจารย์ด้วยการเป็นฮีโร่คอยปกป้องโลกจากความอันตราย
เรื่องย่อและการดำเนินเนื้อเรื่อง
ภาพยนตร์ “เฮลล์บอย” (Hellboy) ในปี 2004 กำกับโดยกิลเลอรีโม เดล โตโร (Guillermo del Toro) เล่าเรื่องราวของเฮลล์บอย ซึ่งเป็นปีศาจที่ถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์ เขามีอำนาจพิเศษที่มาจากอมตะและพลังที่เหนือมนุษย์ ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องของรัสปูติน ที่ถือกำเนิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเขาได้ใช้เวทมนตร์เพื่อเปิดประตูมิติและนำเฮลล์บอยมายังโลกใบนี้
ตัวละครหลักในภาพยนตร์
- เฮลล์บอย (Ron Perlman) – ฮีโร่ผู้มีพลังเหนือมนุษย์
- ศาสตราจารย์เทรเวอร์ บรูม (John Hurt) – ผู้เป็นพ่อ adoptive และผู้ฝึกสอนเฮลล์บอย
- อักนัส (Selma Blair) – ผู้หญิงที่มีพลังในการควบคุมไฟ
- กริกอรี่ รัสปูติน (Karel Roden) – จอมวายร้ายที่ต้องการอำนาจและน่ากลัว
วิวัฒนาการของเฮลล์บอย
การพัฒนาตัวละครเฮลล์บอยทำให้ผู้ชมได้เห็นการต่อสู้กับความมืดภายในใจของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นปีศาจ แต่เขาเลือกที่จะใช้กำลังของเขาเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์ ในภาพยนตร์นี้ เราเห็นเขาต่อสู้กับพลังปีศาจอื่นๆ รวมถึงการทำงานร่วมกับมนุษย์ในภาวะที่อันตราย ที่สุดแล้ว ตัวละครเฮลล์บอยได้กลายเป็นตัวเหมือนที่แสดงความเป็นฮีโร่แบบใหม่ที่ไม่ต้องมีความเพียบพร้อม แต่สามารถทำความดีได้
การนำเสนอทางศิลปะและเทคนิค
กิลเลอรีโม เดล โตโร มีความเชี่ยวชาญในการใช้ CGI (Computer Generated Imagery) และการออกแบบอสูรในโลกของ “เฮลล์บอย” ทำให้ไม่เพียงแต่ตัวละครหลักเท่านั้นที่น่าจดจำ แต่โลกทั้งใบที่สร้างขึ้นยังเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่น่ากลัวและดึงดูด
ผลตอบรับและความสำเร็จ
ภาพยนตร์ “เฮลล์บอย” ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชมอย่างมาก เมื่อเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2004 ภาพยนตร์ได้รับคะแนน 81% บน Rotten Tomatoes และมีคำวิจารณ์ที่ชื่นชมเนื้อเรื่อง การแสดง และเทคนิคพิเศษที่ใช้ โดยเฉพาะการตีความหัวข้อการต่อสู้กับความเชื่อเรื่องเจ้าชายในตัวเองที่เฮลล์บอยต้องเผชิญ
เกร็ดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับภาพยนตร์
- ชื่อภาพยนตร์: เฮลล์บอย (Hellboy)
- ปีที่ออกฉาย: 2004
- ผู้กำกับ: กิลเลอรีโม เดล โตโร
- ดารานำ: รอน เพิร์ลแมน, จอห์น เฮิร์ท, เซลมา แบลร์
- คะแนนบน Rotten Tomatoes: 81% (ผู้ชม)
ส่งผลต่อวงการภาพยนตร์
การสร้างสรรค์ของ “เฮลล์บอย” มีผลกระทบต่อตลาด MCU (Marvel Cinematic Universe) และ DCEU (DC Extended Universe) อย่างมาก ภาพยนตร์ชุดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ตัวละครที่ออกมาจากหนังสือการ์ตูนสามารถถูกดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์ที่มีคุณภาพและทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับตัวละคร
ข้อคิดและข้อคิดเห็น
เฮลล์บอยสอนให้เรารู้ว่า แม้เราจะมีความแตกต่าง หรือต้องต่อสู้กับความเป็นปีศาจในตัวเรา แต่การเลือกที่จะทำความดีและปกป้องผู้อื่นนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด การมีแนวคิดในทางบวกในการเผชิญหน้ากับอุปสรรคจะช่วยทำให้เรากลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิม
ในที่สุด “เฮลล์บอย” เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังสื่อสารแนวคิดอันลึกซึ้งเกี่ยวกับการต่อสู้ภายในตัวเอง แน่นอนว่า ภาพยนตร์นี้จะยังคงเป็นที่จดจำและถูกพูดถึงในวงการภาพยนตร์ต่อไป