เรื่องย่อหนัง “เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 14 พยัคฆ์เหนือพยัคฆ์” กล่าวถึงการที่กลุ่มคนร้ายจากองค์กรสเปคเตอร์ขโมยหัวรบระเบิดนิวเคลียร์เพื่อนำไปใช้ในการสังหารหมู่ เพื่อหยุดยั้งแผนการนี้ เจมส์ บอนด์ (ฌอน คอนเนอรี) เจ้าหน้าที่สายลับ ต้องเข้าแทรกแซงและนำหัวรบที่ถูกขโมยกลับคืน เขาต้องเผชิญกับอันตรายจากกลุ่มคนร้ายที่ตามไล่ล่าเขา ในขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องผู้คนและโลกจากภัยพิบัติ แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม.
เรื่องย่อหนัง เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 14 พยัคฆ์เหนือพยัคฆ์ James Bond 007 Never Say Never Again เมื่อไม่นานมานี้กลุ่มคนร้ายในองค์กรสเปคเตอร์ ได้บุกเข้ามาขโมยหัวรบระเบิดนิวเคลียร์ออกไป เพื่อที่จะทำการสังหารผู้คนมากมาย จึงทำให้เจ้าหน้าที่สายลับ เจมส์บอนด์ (ฌอน คอนเนอรี) จะต้องเข้ามาเป็นผู้ดูแล และหาทางนำหัวรบระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกกลุ่มคนร้ายขโมยไปกลับคืนมาให้ได้ แม้ว่าในช่วงเวลานี้เขาจะต้องหาทางจัดการกับกลุ่มคนร้ายอีกกลุ่มที่พยายามไล่ล่าและสังหารเขา แต่เขาก็จะต้องหาทางปกป้องผู้คนและโลกใบนี้เอาไว้ให้ได้ แม้ว่าตัวเองกำลังจะตกไปอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความอันตรายก็ตาม
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับภาพยนตร์
- ชื่อเรื่อง: James Bond 007 Never Say Never Again
- ปีที่เข้าฉาย: 1983
- ผู้กำกับ: Irvin Kershner
- นักแสดงนำ: Sean Connery, Klaus Maria Brandauer, Max von Sydow, Barbara Carrera, Kim Basinger
- ความยาว: 134 นาที
- ประเภท: แอ็คชั่น, ลึกลับ, ระทึกขวัญ
- คะแนน IMDb: 6.2/10
ความสำคัญและประวัติของเจมส์ บอนด์
เจมส์ บอนด์ 007 เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการภาพยนตร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวละครนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Ian Fleming ในปี 1953 และมีจุดเด่นด้วยความเป็นสายลับที่มีความชำนาญในการทำภารกิจที่ซับซ้อน และทำให้ผู้ชมหลงใหลในเสน่ห์และคาแรคเตอร์ของเขา เจมส์ บอนด์ ปรากฏตัวในภาพยนตร์หลายภาค และหนังเรื่อง “Never Say Never Again” เป็นหนึ่งในภาคที่โดดเด่น โดยเฉพาะเพราะเป็นการกลับมาของฌอน คอนเนอรีในบทบาทของบอนด์ครั้งสุดท้ายในช่วงทศวรรษ 1980
เนื้อเรื่องโดยละเอียด
ใน “Never Say Never Again” เจมส์ บอนด์ ต้องเผชิญหน้ากับองค์การอาชญากรรมที่รู้จักกันในชื่อสเปคเตอร์ ซึ่งได้ขโมยหัวรบนิวเคลียร์ที่ทรงอานุภาพจากกองบัญชาการนิวเคลียร์โลก ด้านผู้มีอำนาจจึงตัดสินใจเรียกตัว บอนด์ กลับมาทำงาน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะการไล่ล่าและต่อสู้กับศัตรูที่มีหลักการแตกต่างกัน
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อองค์กรสเปคเตอร์ทำการขโมยหัวรบที่สามารถทำลายล้างได้จำนวนมาก และต้องการใช้มันในการต่อสู้กับประเทศมหาอำนาจทั่วโลก ทั้งนี้ บอนด์ต้องใช้ความสามารถและเทคนิคต่างๆ เพื่อหยุดยั้งแผนการนี้ โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องเผชิญกับความอันตรายจากทั้งสองด้าน ที่ไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ระหว่างประเทศ แต่ยังเป็นการแข่งขันในความรักและความซื่อสัตย์อีกด้วย
ตัวละครหลักและการแสดง
การแสดงใน “Never Say Never Again” มีความโดดเด่นและดึงดูด โดยเฉพาะการกลับมาของฌอน คอนเนอรี ผู้ซึ่งสร้างชื่อเสียงแน่นอนในบทบาทนี้ ตัวละครอื่นๆ ที่สำคัญได้แก่:
ฌอน คอนเนอรี
ในบท เจมส์ บอนด์ ผู้ซึ่งกลับมาในบทบาทนี้อย่างสง่างาม มอบการแสดงที่เป็นตำนานส่งต่อให้แก่แฟนๆ
คลอส มาเรีย แบรนเดาเออร์
ในบท ราเนส เว็บสเตอร์ ศัตรูหลักของบอนด์ที่มีทักษะสูงและมุมมองเฉียบแหลมในการวางแผน
บาร์บาร่า คาเรร่า
ในบท ลาอูรา หญิงสาวที่มีความฉลาดและชาญฉลาด มีความสำคัญต่อเนื้อเรื่อง
คิม เบซิงเกอร์
ในบท ฟลอเรนซ์ ที่เป็นตัวละครหญิงที่มีเสน่ห์ซึ่งมีการมีปฏิสัมพันธ์ที่น่าสนใจกับบอนด์
มุมมองด้านการผลิตและความสำเร็จ
แม้ว่า “Never Say Never Again” จะไม่ได้เป็นภาพยนตร์ที่อยู่ภายใต้การผลิตของ Eon Productions ซึ่งผลิตภาพยนตร์เจมส์ บอนด์หลายภาค แต่ก็มีการลงทุนที่สูงและน่าตื่นเต้น โดยมีสไตล์การผลิตที่ไม่เหมือนใคร กล่าวคือมีการนำเสนอเรื่องราวในมุมมองที่ใหม่ รวมถึงการใช้เทคนิคต่างๆ ในการสร้างฉากแอคชั่นและเอฟเฟกต์พิเศษ
ภาพยนตร์ได้รับเสียงตอบรับที่หลากหลาย และแม้จะไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าภาคอื่นๆ แต่ก็ยังมีแฟนพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบ เนื้อเรื่องที่พัฒนาในทิศทางที่แปลกใหม่ทำให้ภาพยนตร์ได้รับความสนใจ และยังคงเป็นที่จดจำในวงการภาพยนตร์
บทสรุป
“James Bond 007 Never Say Never Again” ยังคงเป็นผลงานไอคอนิคที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์สายลับ เจมส์ บอนด์ ตัวละครที่เหนือกาลเวลาในวงการภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงการผจญภัย ความตื่นเต้น และสเน่ห์ของโลกสายลับ การกลับมาของฌอน คอนเนอรี พร้อมกับเนื้อเรื่องที่ลุ้นระทึก ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชม แม้ว่าจะเกิดขึ้นในยุคที่ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์มีการแข่งขันสูง แต่ “Never Say Never Again” ก็ยังคงได้รับการยอมรับอย่างสูงจากแฟนๆ และนักวิจารณ์อยู่เสมอ