ในภาค 2 ของ “Atlas Shrugged” (2012) ดักนี่ แทคการ์ด (เทย์เลอร์ ชิลลิง) ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริษัทการขนส่งทางรถไฟให้ยิ่งใหญ่และได้รับการยอมรับ จนกลายเป็นบริษัทที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีแผนควบคุมและยึดกิจการของเธอ ดักนี่และเฮนรี่ (เจสัน เบจ) นักประดิษฐ์รถไฟทันสมัย ต้องร่วมมือกันป้องกันบริษัทจากการถูกทำลาย โดยเฮนรี่ใช้ความสามารถด้านเทคโนโลยีวางแผนเพื่อช่วยให้บริษัทของดักนี่คงอยู่โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคจากรัฐบาล.
ในโลกของภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยแนวคิดทางสังคมและปรัชญาที่เฉียบคม ผลงานจากนักเขียนที่มีชื่อเสียงอย่างแกรีน์ แรนด์ “Atlas Shrugged 2 (2012)” หรือในชื่อไทยว่า “อัจฉริยะรถด่วนล้ำโลก ภาค 2” ถือเป็นภาพยนตร์ที่มีการเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นอิสระและการต่อต้านการควบคุมจากรัฐบาลอย่างชัดเจน ภาพยนตร์นี้เป็นภาคต่อจาก “Atlas Shrugged: Part I” ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ชมที่ชื่นชอบในเรื่องของการเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการต่อสู้เพื่ออำนาจทางการค้า
ข้อมูลพื้นฐานของภาพยนตร์
- ชื่อเรื่อง: Atlas Shrugged 2: Part II
- ปีที่ออกฉาย: 2012
- ผู้กำกับ: John Putch
- นักแสดง:
- Taylor Schilling (Dagny Taggart)
- Jason Beghe (Hank Rearden)
- Patrick Fabian (James Taggart)
- Esai Morales (Ricardo Dominguez)
- คะแนน: 4.3/10 (จาก IMDb)
เรื่องย่อของ “Atlas Shrugged 2”
ใน “Atlas Shrugged 2,” Dagny Taggart (แสดงโดย Taylor Schilling) ยังคงอยู่ในเส้นทางเพื่อสร้างบริษัทรถไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้ได้ แต่เธอกลับต้องเผชิญหน้ากับการควบคุมจากรัฐบาลที่ต้องการเข้ามาควบคุมในกิจการของเธอ หนังจะพาเราไปสำรวจถึงความคิดและการกระทำของตัวละครต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมั่นในระบบตลาดเสรีซึ่งรัฐบาลกลับมืดมนและพยายามหาทางควบคุม
การต่อสู้ระหว่างอุตสาหกรรมและรัฐบาล
Dagny และ Hank Rearden (แสดงโดย Jason Beghe) จำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อต่อต้านอำนาจรัฐที่เข้ามาทำลายกิจการของพวกเขา บทบาทของเฮนรี่ในภาพยนตร์เน้นย้ำถึงบทเรียนที่สำคัญเกี่ยวกับความสามารถของมนุษย์ในการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมในยุคที่รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องอำนาจ
แนวคิดทางปรัชญาที่เป็นหัวใจ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวการต่อสู้ในเชิงธุรกิจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงหลักปรัชญาของแอรันด์เกี่ยวกับลัทธิเอกชนและการต่อต้านการควบคุมจากภายนอก โดยเฉพาะการนำเสนอว่าทำไมการเป็นอิสระและการมีกับระเบียบที่เป็นธรรมจึงสำคัญต่อการพัฒนาสังคม
การสร้างหนังและการแสดง
ตัวละครหลักต่าง ๆ ได้รับการชื่นชมจากการแสดงที่เป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะความสามารถของ Taylor Schilling ที่ถ่ายทอดความเข้มแข็งและปัญญาของ Dagny Taggart ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน Jason Beghe ก็มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารความท้าทายที่ Hank ต้องเผชิญในด้านธุรกิจและอารมณ์
การผลิตและคุณภาพของภาพยนตร์
ภาพยนตร์ถูกสร้างขึ้นโดยมีทีมงานที่ทุ่มเทในการสร้างเรื่องราวให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุด ทั้งการถ่ายทำที่มีคุณภาพดีและการออกแบบฉากที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้เข้ากับช่วงเวลาของเรื่อง ธีมของความเป็นอิสระและการสร้างสรรค์สามารถจับต้องได้จากฉากที่การแสดงออกของตัวละคร
การตอบรับจากผู้ชม
แม้ว่า “Atlas Shrugged 2” จะได้รับคะแนนต่ำกว่า 5 จาก IMDb แต่ภาพยนตร์ยังคงมีฐานแฟนคลับที่ติดตามอย่างเหนียวแน่นจากการสร้างภาพยนตร์ภาคแรก รู้สึกได้ว่ามีการแบ่งความคิดเห็น การที่บางคนชื่นชอบในด้านปรัชญาและความคิดซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาผ่านบทภาพยนตร์ และมีคนอื่นที่รู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่เข้มข้นพอ
องค์ประกอบทางเทคนิค
จากมุมมองการผลิต ภาพยนตร์มีการใช้เทคนิคการถ่ายทำที่ลงตัวและมีคุณภาพ แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่บล็อคบัสเตอร์ แต่ก็สามารถสร้างสรรค์บรรยากาศของโลกที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและการแข่งขันที่สูง โดยเฉพาะในฉากที่ Dagny และ Hank วางแผนเพื่อต่อสู้กับการควบคุมของรัฐบาล
บทสรุป
ส่วนหนึ่งของ “Atlas Shrugged 2” คือการตั้งคำถามถึงบทบาทของรัฐบาลในชีวิตของประชาชนและการดำเนินธุรกิจ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในขณะที่การควบคุมจากรัฐอาจดูเหมือนเป็นทางออก แต่ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจอาจจะถูกทำลายลงจากการแทรกแซงของอำนาจ
ภาพยนตร์นี้ถือเป็นการสะท้อนถึงความเร่งด่วนในการรักษาความเป็นอิสระให้กับผู้ประกอบการและการตระหนักว่าความสามารถในการคิดค้นของมนุษย์นั้นมีค่ามากเพียงใดในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายจากภายนอก.