เคท (เอมมิเลีย คลาร์ก) หญิงสาวจากลอนดอนที่มีชีวิตเต็มไปด้วยปัญหาและโชคไม่ดี ทำงานเป็นพนักงานในร้านอาหารที่ต้องแต่งตัวเป็นเอลฟ์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เธอฝันอยากเป็นนักร้อง แต่ไม่มีโอกาสมาจนถึงตอนนี้ ชีวิตเธอเริ่มเปลี่ยนแปลงเมื่อได้พบ ทอม (เฮนรี โกลดิง) ชายหนุ่มที่สนใจในตัวเธอ พวกเขาเริ่มมีความสัมพันธ์และทอมช่วยสนับสนุนเคท ทำให้เธอมีแรงใจและความมั่นใจในการตามหาฝันของตัวเอง สิ่งใหม่ในชีวิตเริ่มเข้ามาอย่างน่าทึ่ง
“Last Christmas (2019)” หรือ “ลาสต์ คริสต์มาส” เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในช่วงเทศกาลแห่งความสุข โดยเรื่องราวพัฒนาในบริบทของกรุงลอนดอน เงื่อนงำของความรักและความหวัง ได้จุดประกายให้กับชีวิตของตัวละครเอกที่ลำบากและมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในชีวิต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเสน่ห์ของภาพยนตร์นี้
ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ “Last Christmas”
- วันที่เข้าฉาย: 8 พฤศจิกายน 2019
- ผู้กำกับ: Paul Feig
- นักแสดงนำ: Emilia Clarke, Henry Golding, Michelle Yeoh, Emma Thompson
- ประเภท: โรแมนติก, คอมเมดี้
- ความยาว: 102 นาที
- เรตติ้ง: 6.5/10 (IMDb)
- เพลงประกอบ: “Last Christmas” โดย George Michael
เรื่องราวของ “Last Christmas”
หญิงสาวที่อาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เคท (รับบทโดยเอมมิเลีย คลาร์ก) เธอเกิดและเติบโตอยู่ในเมืองหลวงลอนดอนมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างมีดวงที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ในการใช้ชีวิต ชอบเจอแต่ปัญหากับเรื่องแย่ๆอยู่ตลอด ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ก็ยังต้องทำงานที่ไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่ เป็นพนักงานธรรมดาในร้านอาหารที่ต้องแต่งตัวเป็นเอลฟ์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่แท้จริงแล้วเธอใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักร้องมาโดยตลอดแต่ไม่เคยได้รับโอกาสนั้นเลย
ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อชีวิตของเธอพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อได้รู้จักกับ ทอม (เฮนรี โกลดิง) หนุ่มหล่อที่เธอบังเอิญเจอตอนกำลังทำงานอยู่ หลังจากได้พบกันอยู่บ่อยๆ เธอเริ่มตกหลุมรักเขาอย่างเต็มรูปแบบ ดูเหมือนว่าเขาเองก็สนใจในตัวเธอเช่นกัน เขาพยายามอยู่ข้างๆ และช่วยเหลือเธอ ทำให้เธอได้รับกำลังใจที่ดีมาก และชีวิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นกัน
ธีมหลักของภาพยนตร์
ความหวังและการฟื้นฟู
“Last Christmas” นำเสนอธีมของความหวังและการฟื้นฟูอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในการให้กำลังใจสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการพบเจอและสัมพันธ์ที่เคทมีต่อทอม ภาพยนตร์นี้เติมเต็มความรู้สึกในช่วงเทศกาลวันหยุด ส่งเสริมให้คนดูมีความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ และแสดงถึงพลังของความรักในการบำบัดบาดแผลในใจ
ความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ระหว่างเคทและทอมเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการเติบโตและการเรียนรู้จากกันและกัน ทั้งคู่ต้องผ่านบทเรียนในการรักตัวเอง เรียนรู้ที่จะยอมรับและเปิดใจต่อผู้คนรอบตัว ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญในการสร้างความสุขในชีวิต
การสร้างบรรยากาศและเพลงประกอบ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ “Last Christmas” โดดเด่นคือบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น และเพลงประกอบที่มีความเชื่อมโยงเข้ากับเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะเพลง “Last Christmas” ของ George Michael ที่มีชื่อเดียวกับภาพยนตร์ เนื้อเพลงช่วยสะท้อนถึงอารมณ์และบรรยากาศในเรื่องราวของความรักที่พลาดไปและการเรียนรู้จากความผิดพลาด
การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์
แม้ว่าภาพยนตร์จะไม่ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์มากเท่าที่ควร แต่ผู้ชมจำนวนมากกลับชมเชยในด้านความรู้สึกอบอุ่นและข้อความที่ช่วยกระตุ้นให้มองโลกในแง่ดี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ทุกคนควรได้รับกำลังใจ และความสุข
ข้อดีและข้อเสีย
สิ่งที่ทำให้ “Last Christmas” ก้าวหน้าและดึงดูดผู้ชมคือ:
- การแสดงที่น่าประทับใจของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ Emilia Clarke ที่เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง
- บรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสที่ใกล้ชิด และให้ความรู้สึกอบอุ่น
- เพลงประกอบที่เป็นที่รู้จักและทำให้รู้สึกถึง nostalgia
ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกว่าการพัฒนาของเรื่องราวอาจจะคาดเดาได้ หรือมีจุดประสงค์ที่ไม่ชัดเจนในบางส่วน
บทสรุป
“Last Christmas” เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของความรัก การเติบโต และการค้นหาความหวังในคืนวันคริสต์มาส แม้ว่าจะมีมุมมองที่แตกต่างทางการตอบรับจากนักวิจารณ์ แต่ความทรงจำที่ภาพยนตร์สร้างขึ้นในหัวใจของผู้ชมก็ยังคงต่อเนื่องอยู่ ภาพยนตร์นี้เหมาะสำหรับการรับชมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เพื่อเป็นการเตือนใจถึงความรักและความหวังที่ทุกคนสามารถมีได้
สุดท้ายนี้ “Last Christmas” ได้แสดงให้เห็นว่าแม้ในช่วงเวลายากลำบาก ความรักและการสนับสนุนจากคนรอบข้างสามารถทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้อย่างน่ามหัศจรรย์